วิธีการตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดและการตรวจพิสุจน์ความเมา

Photo by jcomp / Freepik

วิธีการตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือด

วิธีการตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดในปัจจุบัน ทำได้ 3 วิธีหลักๆ คือ

  1. ทางลมหายใจ โดยให้ผู้ดื่มสุราเป่าลมหายใจเข้าไปใน เครื่องตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ ในเลือดทางลมหายใจ ตัวเลขที่ปรากฎบนจอของเครื่องจะบอกระดับแอลกอฮอล์ในเลือด หน่วยเป็นมิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
  2. ทางเลือด โดยการเจาะเลือดจากผู้ดื่มสุราแล้วส่งตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดโดยตรงในห้องปฏิบัติการผู้ตรวจวิเคราะห์ต้องมีความชำนาญเฉพาะทาง ผลที่ได้มีความถูกต้องมาก
  3. ทางปัสสวะ โดยการเก็บตัวอย่างปัสสาวะจากผู้ที่ดื่มสุรา แล้วนำปัสสาวะนั้นส่งตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดในห้องปฏิบัติการผลที่ได้มีความถูกต้องใกล้เคียงกับในเลือด

การตรวจพิสุจน์ “เมา”
นอกเหนือจากการตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดด้วยวิธีการหลัก 3 วิธีดังกล่าวมาแล้วยังมีวิธีการตรวจเพื่อพิสูจน์ว่า “เมา” หรือไม่นั้นได้อีกหลายวิธี และไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือใดๆ โดยการสังเกต ดังนี้

  1. กลิ่นสุรา จากลมหายใจ หรือเสื้อผ้า
  2. การเดินไม่ตรงทาง
  3. การพูดจาอ้อแอ้ ไม่สื่อความหมาย
  4. การขับรถเร็ว หรือช้า โดยไม่มีเหตุผล
  5. การขับรถในอัตราเร็วไม่คงที่
  6. การหยุดรถไม่ถูกจังหวะ ไม่เรียบร้อย
  7. การแซงหรือสวนรถในขณะที่ยังไม่สมควร หรือหักหลบมากเกินสมควรเมื่อมีรถผ่าน
  8. ไม่ปฏิบัติตามกฎจารจร
  9. ขับรถในเวลากลางคืนไม่เปิดไฟ
  10. ขับเกียร์ต่ำตลอด หรือเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ โดยไม่มีเหตุผล
  11. ขับรถไม่ตรงทาง ส่ายไปมา
  12. ขับรถเปลี่ยนช่องทางบ่อยๆ

ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างระดับแอลกอฮอล์ในเลือดกับอาการแสดงของผู้ที่ดื่มสุรา

ระดับแอลกอฮอล์ในเลือด (มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) อาการแสดง
30 สนุกสนาน ร่าเริง
50 เสียการควบคุมการเคลื่อนไหว
100 เดินไม่ตรงทาง
200 สับสน
300 ง่วงซึม
400 สลบและอาจถึงตาย