วิธีการตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือด
วิธีการตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดในปัจจุบัน ทำได้ 3 วิธีหลักๆ คือ
- ทางลมหายใจ โดยให้ผู้ดื่มสุราเป่าลมหายใจเข้าไปใน เครื่องตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ ในเลือดทางลมหายใจ ตัวเลขที่ปรากฎบนจอของเครื่องจะบอกระดับแอลกอฮอล์ในเลือด หน่วยเป็นมิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
- ทางเลือด โดยการเจาะเลือดจากผู้ดื่มสุราแล้วส่งตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดโดยตรงในห้องปฏิบัติการผู้ตรวจวิเคราะห์ต้องมีความชำนาญเฉพาะทาง ผลที่ได้มีความถูกต้องมาก
- ทางปัสสวะ โดยการเก็บตัวอย่างปัสสาวะจากผู้ที่ดื่มสุรา แล้วนำปัสสาวะนั้นส่งตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดในห้องปฏิบัติการผลที่ได้มีความถูกต้องใกล้เคียงกับในเลือด
การตรวจพิสุจน์ “เมา”
นอกเหนือจากการตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดด้วยวิธีการหลัก 3 วิธีดังกล่าวมาแล้วยังมีวิธีการตรวจเพื่อพิสูจน์ว่า “เมา” หรือไม่นั้นได้อีกหลายวิธี และไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือใดๆ โดยการสังเกต ดังนี้
- กลิ่นสุรา จากลมหายใจ หรือเสื้อผ้า
- การเดินไม่ตรงทาง
- การพูดจาอ้อแอ้ ไม่สื่อความหมาย
- การขับรถเร็ว หรือช้า โดยไม่มีเหตุผล
- การขับรถในอัตราเร็วไม่คงที่
- การหยุดรถไม่ถูกจังหวะ ไม่เรียบร้อย
- การแซงหรือสวนรถในขณะที่ยังไม่สมควร หรือหักหลบมากเกินสมควรเมื่อมีรถผ่าน
- ไม่ปฏิบัติตามกฎจารจร
- ขับรถในเวลากลางคืนไม่เปิดไฟ
- ขับเกียร์ต่ำตลอด หรือเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ โดยไม่มีเหตุผล
- ขับรถไม่ตรงทาง ส่ายไปมา
- ขับรถเปลี่ยนช่องทางบ่อยๆ
ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างระดับแอลกอฮอล์ในเลือดกับอาการแสดงของผู้ที่ดื่มสุรา
ระดับแอลกอฮอล์ในเลือด (มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) | อาการแสดง |
---|---|
30 | สนุกสนาน ร่าเริง |
50 | เสียการควบคุมการเคลื่อนไหว |
100 | เดินไม่ตรงทาง |
200 | สับสน |
300 | ง่วงซึม |
400 | สลบและอาจถึงตาย |